วัยรุ่นต้องการอะไรสักอย่างที่ยึดเหนี่ยว

ชอบนักร้องเกาหลี ดาราเกาหลี ซีรี่ย์เกาหลี …. เป็นเมืองขึ้นเกาหลีกันดีกว่า

คนไทยในตอนนี้ตกอยู่ในสภาวะถูกชาติอื่นกลืนกินทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะชนชาติฮั่นเกาหลี ทุกๆวิถีทาง ทั้งการแต่งกาย ความบันเทิง แม้กระทั่งภาษา วิบัติในชนิดที่เอาภาษาเกาหลีมาใส่ด้วย แต่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ตอนนั้นผมเดินไปที่สยามสแควร์แล้วตอนนั้นเป็นเวลาเปิดเพลงชาติ แม้จะมีเสียงเพลงชาติดังก็ตาม แต่มีวัยรุ่นหญิงกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ ไม่ยอมลุกขึ้นและไม่ยอมร้องเพลงชาติไทย แล้วพูดว่า”เราไม่มีทางยืนตรงเคารพเพลงชาติที่เราเกลียดหรอก ถ้าเป็นเพลงชาติเกาหลีจะร้องให้โลกแตกเลย”และนมือของเด็ฏเหล่านั้นก็ชูธงชาติเกาหลีพร้อมกับแลบลิ้นให้กับธงชาติไทยในบริเวณนั้น ผมเห็นแล้วแทบใจหาย ดีที่ไม่มีตำรวจอยู่ ไม่งั้นเด็กกลุ่มนั้นต้องถูกจับแน่ๆ นอกจากนั้น ผมยังพบอีกว่า ในอินเตอร์เน็ต ตามเว็บบอร์ดต่างๆได้มีบุคคลมากมายสรรเริญเยินยอประเทศนี้ แล้วบอกว่าจะออกจากไทยไปเกาหลีให้ได้ แล้วผมเล่นhi5เจอคนไทยที่แต่งงานกับคนเกาหลีอยู่ในเกาหลี ตอนแรกผมทักเป็นภาษาอังกฤษว่าคุณเป็ฯคนไทยมั้ย เขาบอกว่า ใช่ แต่เพียงแค่ผมตอบภาษาไทยกับเขา เขาไม่ยอมคุยกับผมเลย เห็นได้ชัดว่า คนไทยลืมความเป็นไทยมาก แม้กระทังเจอคนไทยด้วยกันยังไม่ยอมพูดภาษาไทยด้วยกันเลย
และสาเหตุหลักๆที่เป็ฯเช่นนี้เพราะ “ผู้หวังอยากทำลายชาติของเราและเพื่อนบ้านของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาจากเกาหลีใต้”เป็นผู้กระทำ และคนไทยเราเองก็ขี้เห่อ จนพาตนเองและเพื่อนบ้านเสื่อมเสียกันหมด
ดังนั้น เราจะยอมไม่ได้ ไม่ว่าไปทุกๆที่ในอินเตอร์เน็ตก็พบคำสรรเสริญเกาหลีมากมาย เราจะต้องมีเว็บไซด์ของคนไทยที่เป็นศูนย์รวมการต่อต้านเกาหลีด้วย ผมจะทำการเปิดเว็บไซด์นี้ขึ้น โดยจะมีทั้งการบันเทิงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วัฒนธรรมของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งบทความทุกๆภาษาที่มีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าหากเราทำสำเร็จในประเทศไทย เราจะมีเครือข่ายชาตินิยมอยู่ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งลาว กัมพูชา พม่า เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
ผมเลยจะขออนุญาตถามพี่ๆทุกคนว่า เห็นด้วยหรือไม่กับการกระทำนี้ ถ้าหากผิดกฏหมายรุนแรง ผมจะได้ผ่อนปรนลง เราจำเป็นที่จะต้องมีจริงๆ หากใครจะสนับสนุนผม ผมก็ยินดีเสมอ
ขอให้ทุกท่านได้มาแสดงความคิดเห็นกันนะครับ ผมรับได้หมด
ชาติของเราอยู่ในกำมือของเราทุกคน และถ้าเราช่วยตัวเองได้ เพือนบ้านของเราก็จะช่วยตัวเองได้เช่นกัน

จากคุณ : พันธิกร

———
ข้างล่างนี้เป็นการแสดงความคิดเห็นของ คุณ Analayo ที่เป็นคนเขียนบล๊อกที่จขกท.ไปหยิบมาให้อ่านนะคะ ^^

[color=Red]อืม กระทู้นี้ตอบยากมากเลยครับ ไม่รู้จะสื่อยังไงดี

[color=Red]แนวคิดของผมคือ ผมไม่เชื่อในการตอบโต้ แต่เชื่อว่าเราสร้างเกราะป้องกันให้ดีดีกว่า
ก่อนกระแส Korean Wave เข้ามา กระแส J-Pop กับ J-Rock ก็อยู่มาก่อนครับ แถมแรงกว่าที่คุณจขกท.ประสบมาซะด้วย ผมผ่านมาด้วยตัวเองครับ เพื่อนผมชอบญี่ปุ่น พาไปเดินบ่อย ๆ ผมก็รู้เรื่องญี่ปุ่นเยอะในตอนนั้น L’Arc-En-Ciel, Gray, Final Fantasy ฯลฯ พวกนี้ผมก้ฟังไปดูไปพร้อมกับเพื่อน ตอนนี้เป็นช่วงของ Korean Wave ครับ เด็ก ๆ รอบตัวผมก็เป็นสาวกของ Korean Wave เหมือนกัน

เท่าที่ดูแล้ว ผมยังยืนยันว่า ไม่น่าห่วงอะไรถึงขนาดที่ต้องต่อต้านขนาดนั้นครับ

ลองมองไปที่กลุ่มคนที่อยู่ใน Korean Wave ตอนนี้ คือเด็กมัธยมไปจนถึงเด็กมหาลัย ซึ่งกรณีนี้เหมือนกับในช่วงที่กระแส J เข้ามา แต่วัยรุ่นที่อยู่ในกระแส J ที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เท่าที่มองดู ทุกอย่างก็กลายเป็นปกติครับ

วัยรุ่นต้องการอะไรสักอย่างที่ยึดเหนี่ยว พูดอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าวัยรุ่นพวกนี้ถือนักร้องเกาหลีเป็นเหมือนศาสนานะครับ ลองนึกดูสิว่า ตอนเราวัยรุ่น ๆ กันเราชอบอะไรมาก ๆ บ้าง อย่างผมชอบเครื่องบินกับข่าวต่างประเทศ <<< นี่แหละครับสิ่งยึดเหนี่ยวของผม เพื่อนผมบ้าคอมพิวเตอร์มาก อีกคนชอบแมลงสุด ๆ ……… เหมือนกันครับ เด็ก ๆ ที่ชอบนักร้องเกาหลีก็ยึดนักร้องพวกนี้แหละเป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เหมือนงานอดิเรกของพวกเรา เพราะเขาต้องการสร้างความแตกต่าง ต้องการมีอะไรสักอย่างที่ตัวเองมั่นใจว่านี่แหละคือสิ่งที่ฉันชอบ และฉันพูดกับทุกคนได้ไม่อายใครว่าฉันก็รู้เรื่องบางเรื่องดีเหมือนกัน

พ้นจากช่วงนี้ก็พ้นครับผมยืนยันได้ ตอนนี้เด็ก ๆ เหล่านี้ยังเห็นโลกแค่ SM Town กับดองบังชิงกิ หรือยังหาอะไรที่ชอบไม่ได้นอกจาก Full House กับ Coffee Prince หรือแม้แต่การที่เขายังเห็นแค่ความสวยงามและความเจริญของประเทศเกาหลี แต่เมื่อเขาโตไป รับรองว่าเมื่อเขาเห็นโลกมากขึ้น เขาจะเข้าใจเองว่าโลกเรามีสองด้าน วัฒนธรรมเกาหลีและประเทศเกาหลีไม่ใช่มีแต่ด้านดีอย่างเดียว เหมือนพวกเราแหละครับ โตขึ้นอายุมากขึ้น เห็นอะไรในแนวระนาบได้ดีขึ้น

การตั้งท่าโจมตี Korean Wave ด้วยความรุนแรง โดยเอาบริบทของชาตินิยมมา ผมขอพูดว่าไม่ได้ผลแน่ครับ เพราะเด็ก ๆ เหล่านั้นอยู่ใน Korean Wave ไม่ใช่เพราะไม่มีความเป็นชาตินิยม แต่เด็ก ๆ พวกนั้นอยู่ใน Korean Wave เพราะดารา นักร้อง ซี่รี่ย์ หนัง ฯลฯ ซึ่งเป็นเพียงสินค้าทางวัฒนธรรมนั้นถูกใจและโดนใจพวกเขา เหมือนบอลอังกฤษกับหนังฮอลิวู้ดไงครับ ฉะนั้นเราจะบอกว่าชอบ Super Junior แล้วไม่รักชาติก็คงไม่ถูก เพราะเราจะต้องโดนย้อนถามกลับแน่เลยว่า แล้วทำไมผู้ใหญ่ยังเชียร์แมนยูอยู่ แล้วทำไมผู้ใหญ่ยังฟัง 50 Cents อยู่

ยิ่งการบอกว่า สิ่งที่คุณชอบที่สิ่งคุณกรี๊ดน่ะผิด กลับมาฟังเพลงไทยมาดูละครไทยเดี๋ยวนี้!!!! พนันขายบ้านเลยครับว่าไม่มีเด็กคนไหนทำตาม ในยุคที่การไหลบ่าของวัฒนธรรมรุนแรง เมื่อวัฒนธรรมไทยบอกว่าคุณต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่อย่างเคร่งครัด แต่วัฒนธรรมต่างชาติบอกว่าคุณควรเป็นตัวของตัวเอง แล้วเด็กของเราดันรับเข้ามาแล้ว แถมมันดูดีกว่าด้วยในความคิดของเขาฉะนั้นเด็กไม่ฟังคุณหรอกครับ เขาจะคิดว่าพ่อแม่จะไปเข้าใจอะไร ผู้ใหญ่จะไปเข้าใจอะไร ทำไมเขาไม่มีสิทธิ์ทำอย่างนี้ พ่อแม่จะจับเขาขังกรงกระนั้นหรือ สุดท้ายก็จะเกิดการต่อต้าน และทุกอย่างก็จะแย่ลง ความพยายามสูญเปล่าแน่นอนครับ

บอกให้เขาไปรำไทย ไปร้อยมาลัย เขาไม่ทำหรอกครับ เพราะสำหรับเขาทำไปก็ไม่สนุก กรี๊ด FT Island สนุกกว่า อีกอย่าง ดูละครน้ำเน่าห่วย ๆ แบบนั้น ใครจะไปอยากดู แม้แต่ผมก็พูดได้ว่าเห็นอย่างงี้ ไปดู Autumn In My Heart ดีกว่าเยอะ

สุดท้ายเราก็ต้องมายอมรับว่า ประเทศเกาหลีเขาทำการบ้านมาดีในการที่จะส่งนักร้องและดาราออกมาให้โดนใจคน ในขณะที่ประเทศไทยเองมีหนังและเพลงที่ไม่ดีพอ

ที่พูดมายาว ๆ สรุปได้ว่า แนวคิดของคุณจขกท. ทำได้ แต่ไม่สำเร็จแน่นอนครับ

ทางแก้ที่ผมเสนอ ไม่ใช่การต่อต้านการเข้ามาของวัฒนธรรมเกาหลีนะครับ

ผมแนะนำให้โหนกระแส

แทนที่จะไปบอกว่าฟังเพลงเกาหลีไม่รักชาติ ดูซีรี่ย์เกาหลีไม่รักชาติ ……… ลองเปลี่ยนมาเป็นการค่อย ๆ สอดแทรกว่า อะไรคือสิ่งที่ดีในเพลงเกาหลีหรือหนังเกาหลี อะไรคือสิ่งที่แย่ในเพลงเกาหลีหรือหนังเกาหลี เพราะวัฒนธรรมเกาหลีหลาย ๆ ดีจริง ๆ เราก็ค่อยๆ บอกว่า “ดูสิ เขาทำอย่างนี้ ดีนะ เพราะนิสัยอย่างนี้มันจะทำให้เราพัฒนาตัวเอง”, “เห็นไหมกว่าจะออกอัลบั้มได้ ต้องฝึกมากี่ปี อะไร ๆ ไม่ได้มาง่าย ๆ แน่” หรือ “ดูสิ อย่างนี้ไม่เหมาะ เพราะว่าทำแล้วอยู่ในสังคมไม่ได้แน่นอน” ยิ่งค่อย ๆ แทรกว่า “เกาหลีเขาทำอย่างนี้ คิดอย่างนี้ สังคมไทยคิดยังไง ทำยังไง เข้ากับสังคมไทยได้ไหม แล้วคุณเห็นว่ายังไง”

ผมว่าได้ประโยชน์นะครับ มันสอนเด็กไปด้วย วัยรุ่นน้ำเชี่ยวอย่าเอาหรือไปขวางครับ

แต่นี่เป็นระดับจุลภาค ในระดับมหภาค รัฐบาลต้องคิดดี ๆ ว่า ที่วัฒนธรรมเกาหลีตีตลาดได้ทั่วเอเชียนั้น เราจะหาประโยชน์อย่างไรจากกระแสนี้ เราจะสร้างกระป้องกันให้วัฒนธรรมไทยยังไง และเราจะทำให้เยาวชนไทยมีเกราะป้องกันทางความคิดอย่างไร

แบบการส่งนักร้องของเราออกไปร้องเพลงในภาษาของเขานี่ก็ดีครับ ผมสนับสนุน อีกอย่างปีหลัง ๆ มานี่ ททท. บุกตลาดท่องเที่ยวเกาหลีนักมาก ๆ เพิ่มนักท่องเที่ยวเกาหลีที่มาเมืองไทยได้เยอะ อันนี้ถือว่าถูกต้องครับ นอกจากนั้น ผู้ใหญ่ในรัฐบาลควรจะต้องมาคิดกันว่า หลังจากปฏิวัติรัฐบาลผ่านไปแล้ว จะ “ปฏิวัติวัฒนธรรมไทย” อย่างไรให้ดูน่าสนใจและน่าติดตาม รวมถึงสร้างมุลค่าเพิ่มให้กับวัฒนธรรมของเรา เพราะในโลกสมัยนี้เราจะมาอนุรักษ์นิยมสุดขั้วแบบท่านระเบียบรัตน์ไม่ได้ครับ เราต้องค่อย ๆ คิดหาจุดดีจุดเด่นของวัฒนธรรมไทย ที่ “น่าสนใจ” และ “ขายได้” ออกมาโชว์มาใช้ มาโปรโมต ทำให้มันไม่น่าเบื่อ ทำให้มันน่าสนใจ

เราควรพัฒนาธุรกิจบันเทิงของไทย เลิกจำกัดกรอบแบบอนุรักษ์นิยมจ๋ากับผู้สร้างภาพยนต์และละครไทย แต่ต้องมาทำวิจัยกันว่าจะออกกฏหมายอย่างไรที่เอื้อให้ธุรกิจบันเทิงไทยพัฒนาในเวลาเดียวกับการรักษาวัฒนธรรมไทยเอาไว้ รัฐควรจะตั้งศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาวัฒนธรรมไทยที่ไม่ใช่การอนุรักษ์ของเก่าเอาไว้อย่างเดียว แต่เป็นการส่งเสริมการผสมผสานของเก่าเข้ากับกระแสสมัยใหม่ ลงทุนสนับสนุนให้ผู้สร้างและผู้กำกับไทยได้เข้าถึงเทคโนโลยีและเทคนิคการผลิตใหม่ ๆ (อย่างการส่งเสริม animation นี่ใช่เลย) ดึงผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศเข้ามาถ่ายทอดความรู้และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจบังเทิงไทย และพัฒนาทั้งระบบอย่างจริงจัง

ผมรับประกันได้ว่าถ้าเราทำอย่างนี้ได้ เราก็ไม่ต้องมานั่งเซ็งกับวัฒนธรรมเกาหลีหรอกครับ …… เพราะเกาหลีเขาก็ทำอย่างงี้มาก่อนไง

ขอบคุณ ….Skyman Analayo จข.บล๊อก

 

 

 

 

ที่มาจาก : http://www.siamzone.com/board/view.php?sid=760903